» Q&A กับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ...เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
Q : แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มมา จากอะไร ?
A : เริ่มมาจากปัญหาที่เรา...ไปเจอน ั่นแหละ โลกเวลานี้ก็บริโภคเสียจนกระทั่ งเกินเหตุ แล้วก็เกิดวิกฤตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าพูดไปแล้วมีตัวเลขน่ากลัวมาก คือว่า...ชาวโลกบริโภคทรัพยากรธ รรมชาติไปในอัตรา ๓ ต่อ ๑ คือบริโภคไป ๓ ส่วน แต่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติชดเชยก ลับมาได้เพียง ๑ ส่วน
ถ้าเราบริโภคในอัตราความเร็วอย่ างนี้ก็หมด น้ำมันก็เริ่มมีสงครามแย่งน้ำมั นกันแล้วใช่ไหม อีกหน่อยก็มีสงครามแย่งน้ำ สงครามแย่งทรัพยากรกัน แล้วก็มันไม่เพียงพอกับประชากรท ี่เพิ่มขึ้น ๆ ในขณะนี้ ก็คูณไปสิ มากขึ้น ๆ
เพราะฉะนั้นพอมันเป็นอย่างนี้ หันมาดูประเทศไทยมันก็แบบเดียวก ันอีก โลกาภิวัตน์...เราก็ตามโลก มุ่งหาความร่ำรวย มุ่งหาความเจริญเติบโต
แล้วถ้าตัวเองไม่สร้างฐานรากทาง เศรษฐกิจและสังคมเอาไว้อย่างมั่ นคง พอเศรษฐกิจโตแล้วมันก็แตกเป็นฟอ งสบู่แบบที่เห็นกันมาหลายครั้งแ ล้ว โตแล้วก็แตก คือไม่ได้สร้างฐานราก
ก็เลยพระราชทานแนวหลักมาว่า ให้ใช้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตหลักเช่นทางสายกลาง โดยพระราชทานหลัก ๓ ประการมาให้
◌◌◌◌◌◌◌◌
หลัก ๓ ประการนั่นก็คือว่า...
● ประการที่ ๑ : ทำอะไรต่าง ๆ นั้นใช้เหตุใช้ผลเป็นเครื่องนำท างได้ไหม ?...อย่าเปลี่ยนตามกระแส
คือตามกระแสโลกเราก็รู้อยู่แล้ว โลกทุกวันนี้มันนำไปสู่ความหายน ะซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราก็ไม่ควรจะตาม เราควรจะมีแนวทางของเรา
เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างต้อง มีเหตุมีผล อย่าไปตามกระแส อย่าไปทำอะไรให้มันล้นไปจนกระทั ่งเกิดทุกข์ เพราะคำว่าแตกเนี่ย เศรษฐกิจแตกเพราะเราเป่าให้มันแ ตก มันต้องโตเสียก่อนแล้วมันถึงจะแ ตก ลูกโป่งมันต้องเป่าก่อนแล้วมันถ ึงจะแตก
ฉันใดฉันนั้น ถ้าคิดมันก็เป็นสติเตือนใจ แต่เราไม่ชินกับการทำอะไรด้วยเห ตุด้วยผล
◌◌◌◌◌◌◌◌
● ประการที่ ๒ : ทำอะไรพอประมาณได้ไหม ?
คือต้องตรวจดูสภาพก่อนว่าสภาพตั วเราแข็งแรงแค่ไหนอย่างไร ศักยภาพของเราอยู่ตรงไหน เราแข็งจุดไหนบ้าง เราอ่อนจุดไหนบ้าง ตรวจสอบศักยภาพของเราเสียก่อน แล้วทำตามพอประมาณของเราในขณะนั ้น ในระดับใดระดับหนึ่งที่มันเหมาะ สมกับขนาดของเรา
ผมมักจะชอบเปรียบเทียบกับมวย เราจะไปถึงแชมป์โลกได้ต้องบอกว่ ารุ่นไหน ถ้ารุ่นเล็กนี่มาเลย อันนั้นคือความพอประมาณ ศักยภาพเต็มประมาณของเราอยู่ตรง นี้เราสู้ได้ แต่ถ้าชกรุ่นใหญ่ขึ้นไป เราไปไม่ไหว มันเกินจากเราแล้ว
อันนี้คือความพอประมาณ ต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมของเรา มันควรจะเอาเรื่องอะไรมาเป็นที่ ตั้งหรือเป็นฐาน
◌◌◌◌◌◌◌◌
● ประการที่ ๓ : จะทำอะไรก็ตามนั้นต้องมี...ภูมิ คุ้มกัน !!
คือทำอย่างไรให้นึกถึงวันพรุ่งน ี้ว่าพรุ่งนี้มันไม่แน่ ต้องมีหลักประกันอยู่ตลอดเวลา ต้องมีเงินออมไว้หน่อยได้ไหม
สำหรับระดับบุคคลเนี่ยพรุ่งนี้อ าจจะไม่สบายก็ได้ เพราะฉะนั้นมีเท่าไหร่ใช้หมด เกิดเจ็บไข้ได้ป่วยจะทำอย่างไร
อย่างเรื่องพลังงาน ดีเซลมันแพงขึ้น ๆ เราจะแสวงหาน้ำมันดีเซลจากพืชหร ืออะไรต่ออะไรมาเป็นหลักประกันเ รา เราจะได้ไม่ต้องพึ่งภายนอก
ชีวิตเราไม่ต้องขึ้นอยู่กับคนอื ่นเขามากเกินไปจนกระทั่งมันขาดอ ิสรภาพไป อันนี้คือภูมิคุ้มกันที่เราต้อง มีตลอดเวลา เพราะว่าอะไรกระทบมาเราจะได้ไม่ เดือดร้อน อย่างน้อยเรามีเกราะกำบังของเรา ไว้
◌◌◌◌◌◌◌◌
อันนั้นคือคำหลัก ๓ ประการ มีเหตุมีผล ต้องยึดความพอประมาณ รู้ศักยภาพของเรา และก็มีภูมิคุ้มกัน
แต่ทรงเน้นว่า...ทั้งหลายทั้งปว งนี้ต้องตั้งอยู่บนฐานจริยธรรมค ุณธรรม
คือคนเราต้องมีคุณธรรมต้องมีจริ ยธรรม ถ้าปราศจากข้อนี้แล้วไม่มีประโย ชน์ ร่ำรวยไปถ้าสังคมมันเต็มไปด้วยค วามทุจริต หรือไม่ซื่อตรง หรือคดโกงกัน หรือเอาเปรียบกัน เบียดเบียนกัน มันก็ไม่มีประโยชน์
เพราะฉะนั้นสังคมทั้งสังคมจะต้อ งมีจริยธรรมคุณธรรม คือคนต้องดี แล้วเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ท รงวางไว้จะได้นำเราไปสู่ "ความร่ำรวยที่ยั่งยืน" ...ไม่ใช่จนลงหรือให้รัดเข็มขัด
ตรงกันข้าม ให้ร่ำรวยแล้วยั่งยืน !!
พระองค์ท่านตรัสว่า เราต้องสร้างรากหรือลงเสาเข็มให ้แข็งแรงเสียก่อน แล้วค่อยสร้างบ้าน เพราะฉะนั้นพอบ้านเสร็จแล้วก็จะ แข็งแรง
ฉันใดฉันนั้น นี่คือเศรษฐกิจง่าย ๆ เศรษฐกิจพอเพียง แล้วบางคนบอกจะทำเมื่อไหร่ ทำวันนี้พรุ่งนี้ได้เลย ตัวเราเองมีงบเท่านี้ รายได้เท่านี้ ก็อยู่แค่นี้
ไม่ใช่รายได้เท่านี้แต่ไปซื้ออะ ไรที่มันแพงมาประดับบารมีตามกระ แสสังคม ไม่ใช้เหตุใช้ผล มีเงินแค่ซื้อรถคันเล็ก ๆ แต่กลับไปผ่อนรถคันโต ก็แบกไม่ไหว
อาหารการกินก็กินให้มันพอดี กินแพงเกินไป กินมากเกินไปมันก็จุก ไขมันก็เพิ่ม อยู่อย่างเรียบง่ายอยู่อย่างธรร มดาอยู่กับสติอย่างถาวร
◌◌◌◌◌◌◌◌
» บทเสริมท้ายเรื่อง :
ตลอดเวลากว่า ๓๐ ปีที่ ดร. สุเมธได้ถวายงานรับใช้ใกล้ชิดเบ ื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเ จ้าอยู่หัว ทำให้ท่านได้รับข้อคิดและบทเรีย นอันมีค่ามากมายไม่ว่าในแง่การง านหรือการใช้ชีวิต
ทั้งจากพระบรมราโชวาทในวาระต่าง ๆ และจากการที่ได้ทรงกระทำพระองค์ เป็นเยี่ยงอย่าง อาทิ
● การทำงานทั้งหลายต้องทำด้วยใจ ทำด้วยความสนุก
● ทำงานด้วยความรู้ ความรู้จะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องขวนขวายเก็บบันทึกไว้ ความรู้จะต้องพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ
● ให้สนุกกับการแก้ปัญหา เห็นปัญหากระโดดเข้าใส่
● ตั้งตนอยู่บนพื้นฐานของความเมตต าและสร้างความสุขให้ผู้อื่น
● หัวสมองต้องทำงานอยู่ตลอด ต้องช่างสังเกต ดูสถานการณ์รอบข้าง อย่าปล่อยให้จิตใจเลื่อนลอย ต้องมี-สติติดตัวตลอด เมื่อมีสติก็มีปัญญา ปัญญาทำให้หูตาสว่าง ไม่หลง
● อย่าฉวยโอกาส ต้องซื่อสัตย์สุจริตระหว่างปฏิบ ัติงานเป็นที่ตั้ง ฯลฯ
หากเหนืออื่นใด การถวายงานรับใช้ใกล้ชิด ยังทำให้ท่านได้เห็นอย่างชัดเจน ถึงพระวิริยะอุตสาหะของพระบาทสม เด็จพระเจ้าอยู่หัวในการปฏิบัติ พระราชกรณียกิจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความสุข” ในการ “ทรงงาน” เพื่อพสกนิกรของพระองค์
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 256
Q : แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาท
A : เริ่มมาจากปัญหาที่เรา...ไปเจอน
ถ้าเราบริโภคในอัตราความเร็วอย่
เพราะฉะนั้นพอมันเป็นอย่างนี้ หันมาดูประเทศไทยมันก็แบบเดียวก
แล้วถ้าตัวเองไม่สร้างฐานรากทาง
ก็เลยพระราชทานแนวหลักมาว่า ให้ใช้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ชีวิตหลักเช่นทางสายกลาง โดยพระราชทานหลัก ๓ ประการมาให้
◌◌◌◌◌◌◌◌
หลัก ๓ ประการนั่นก็คือว่า...
● ประการที่ ๑ : ทำอะไรต่าง ๆ นั้นใช้เหตุใช้ผลเป็นเครื่องนำท
คือตามกระแสโลกเราก็รู้อยู่แล้ว โลกทุกวันนี้มันนำไปสู่ความหายน
เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างต้อง
ฉันใดฉันนั้น ถ้าคิดมันก็เป็นสติเตือนใจ แต่เราไม่ชินกับการทำอะไรด้วยเห
◌◌◌◌◌◌◌◌
● ประการที่ ๒ : ทำอะไรพอประมาณได้ไหม ?
คือต้องตรวจดูสภาพก่อนว่าสภาพตั
ผมมักจะชอบเปรียบเทียบกับมวย เราจะไปถึงแชมป์โลกได้ต้องบอกว่
อันนี้คือความพอประมาณ ต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมของเรา มันควรจะเอาเรื่องอะไรมาเป็นที่
◌◌◌◌◌◌◌◌
● ประการที่ ๓ : จะทำอะไรก็ตามนั้นต้องมี...ภูมิ
คือทำอย่างไรให้นึกถึงวันพรุ่งน
สำหรับระดับบุคคลเนี่ยพรุ่งนี้อ
อย่างเรื่องพลังงาน ดีเซลมันแพงขึ้น ๆ เราจะแสวงหาน้ำมันดีเซลจากพืชหร
ชีวิตเราไม่ต้องขึ้นอยู่กับคนอื
◌◌◌◌◌◌◌◌
อันนั้นคือคำหลัก ๓ ประการ มีเหตุมีผล ต้องยึดความพอประมาณ รู้ศักยภาพของเรา และก็มีภูมิคุ้มกัน
แต่ทรงเน้นว่า...ทั้งหลายทั้งปว
คือคนเราต้องมีคุณธรรมต้องมีจริ
เพราะฉะนั้นสังคมทั้งสังคมจะต้อ
ตรงกันข้าม ให้ร่ำรวยแล้วยั่งยืน !!
พระองค์ท่านตรัสว่า เราต้องสร้างรากหรือลงเสาเข็มให
ฉันใดฉันนั้น นี่คือเศรษฐกิจง่าย ๆ เศรษฐกิจพอเพียง แล้วบางคนบอกจะทำเมื่อไหร่ ทำวันนี้พรุ่งนี้ได้เลย ตัวเราเองมีงบเท่านี้ รายได้เท่านี้ ก็อยู่แค่นี้
ไม่ใช่รายได้เท่านี้แต่ไปซื้ออะ
อาหารการกินก็กินให้มันพอดี กินแพงเกินไป กินมากเกินไปมันก็จุก ไขมันก็เพิ่ม อยู่อย่างเรียบง่ายอยู่อย่างธรร
◌◌◌◌◌◌◌◌
» บทเสริมท้ายเรื่อง :
ตลอดเวลากว่า ๓๐ ปีที่ ดร. สุเมธได้ถวายงานรับใช้ใกล้ชิดเบ
ทั้งจากพระบรมราโชวาทในวาระต่าง ๆ และจากการที่ได้ทรงกระทำพระองค์
● การทำงานทั้งหลายต้องทำด้วยใจ ทำด้วยความสนุก
● ทำงานด้วยความรู้ ความรู้จะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องขวนขวายเก็บบันทึกไว้ ความรู้จะต้องพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ
● ให้สนุกกับการแก้ปัญหา เห็นปัญหากระโดดเข้าใส่
● ตั้งตนอยู่บนพื้นฐานของความเมตต
● หัวสมองต้องทำงานอยู่ตลอด ต้องช่างสังเกต ดูสถานการณ์รอบข้าง อย่าปล่อยให้จิตใจเลื่อนลอย ต้องมี-สติติดตัวตลอด เมื่อมีสติก็มีปัญญา ปัญญาทำให้หูตาสว่าง ไม่หลง
● อย่าฉวยโอกาส ต้องซื่อสัตย์สุจริตระหว่างปฏิบ
หากเหนืออื่นใด การถวายงานรับใช้ใกล้ชิด ยังทำให้ท่านได้เห็นอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ความสุข” ในการ “ทรงงาน” เพื่อพสกนิกรของพระองค์
◌◌◌◌◌◌◌◌
Credit : นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 256
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น